Check ความพร้อมของลูก 
สำหรับคำถามที่ว่า จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกพร้อมเข้าเนิร์สเซอรี่แล้ว? 
เรื่องนี้ขึ้นอยู่กัยพัฒนาการของลูกค่ะ คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตความพร้อมของลูก ในทุกด้าน ทั้งด้านร่างกาย ความคิ อารมณ์ ว่าลูกพร้อมที่จะเรียนรู้โลกนอกบ้าน แล้วหรือยัง เช่น 
..... เดินได้คล่อง ขึ้นบันไดเองได้ 
..... วิ่ง ปีนป่ายได้ 
..... กระโดดและยืนด้วยปลายเท้าได้ 
..... ขี่จักรยานสามล้อได้ 
..... ขว้าง หรือโยนลูกบอลในระดับต่ำได้ 
..... ใช้มือได้คล่อง หยิบจับสิ่งต่างๆ ได้ดี จับดินสอได้ 
..... พูดเป็นประโยตได้ 
..... บอกสิ่งที่ต้องการได้ จับดินสอขีดเขียน วาดภาพได้บ้าง (ไม่จำเป็นต้องเหมือนจริง) 
..... ใช้คำพูดหรือท่าทางแสดงอารมณ์ได้มากขึ้น 
..... เริ่มอยากเล่นกับเด็กคนอื่น ชอบช่วยเหลือผู้อื่น รู้จักแบ่งปันของเล่น เริ่มสนใจเด็กที่เล็กกว่า 
..... ช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น คุณแม่ไม่ต้องคอยดูแลตลอดเวลา 
..... แยกแยะความแตกต่างระหว่าผู้หญิงผู้ชายได้ 
..... รู้จักแบ่งปันสิ่งของให้ผู้อื่น  
..... ชอบดูหนังสือภาพ บอกเล่าเรื่องราวที่เคยเห็นในหนังสือได้ถูกต้อง 
..... ความจำดี ช่างสังเกต มีความสนใจสิ่งต่างๆ นานขึ้น 
..... เข้าใจเรื่องเวลา - สถานที่มากขึ้น 
ลูกไม่จำเป็นต้องทำได้ครบทุกข้อหรอกค่ะ แต่ถ้าส่วนใหญ่แล้วทำได้ก็ถือว่าพร้อมในระดับหนึ่ง

เลือกเนิร์สเซอรี่แบบไหน 
หลักๆ แล้วการจะเลือกเนิร์สเซอรี่ ข้อแรกคุณพ่อคุณแม่ควรดูเรื่องมาตรฐานของเนิร์สเซอรี่แห่งนั้นก่อน นอกจากนั้นให้ดูที่... 
- บรรยากาศดี สภาพแวดล้อมชดชื่น 
- เจ้าหน้าที่ พี่เลี้ยง หรือครูผ่านการอบรม 
- มีอุปกรณ์เพื่อการเล่นและเรียนรู้ที่เหมาะสม 
- อาหารที่ถูกสุขลักษณะ 
- มีพื้นที่กลางแจ้งให้เด็กได้ออกกำลังกาย มีเครื่องเล่นที่ได้มาตรฐาน แข็งแรง 
- มีการจัดกิจกรรมที่เหมาะกับวัย 
- สัดส่วนจำนวนครู พี่เลี้ยง ต่อจำนวนเด็กไม่มากเกินไป 
- อยู่ใกล้บ้าน เดินทางสะดวก

เตรียมความพร้อมสู่โลกนอกบ้าน 
นอกจากสังเกตพัฒนาการของเด็กแล้ว เพื่อให้ลูกสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างไม่มีปัญหา ต้องสอนให้ลูกรู้จักกฎ กติกา ของสังคมด้วยค่ะ เพราะหากไม่ได้รับการฝึกเด็กอาจไม่เข้าใจว่าทำไมเค้าถึงไม่สามารถทำบางอย่างได้ เช่น ทำไมเค้าถึงไม่สามารถแย่งของเล่นจากเพื่อนได้ 
หากเค้าทำตัวไม่น่ารัก เช่น แย่งของเล่นเพื่อน คุณพ่อคุณแม่ควรอธิบายว่าสิ่งนั้นไม่ดีอย่างไร โดยใช้คำพูดสั้นๆ ง่ายๆ ไม่อธิบายยืดยาวเกินไป 
ในเรื่องระเบียบวินัย ควรฝึกให้เขารู้จักเก็บของเป็นที่ เก็บของเล่นเมื่อเล่นเสร็จแล้ว 
เด็กๆ มักต้องการการยอมรับว่าเขาโตขึ้นแล้วและต้องการคำชมเมื่อเขาทำดี ดังนั้นการชื่นชมเมื่อเค้าทำดีจะช่วยกระตุ้นให้เค้าทำในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่อยากให้ทำได้มากค่ะ  

ระวังความเข้าใจผิด 
สำหรับคุณแม่ที่คลอดน้องใหม่ ในช่วงที่ลูกต้องไปเนิร์สเซอรี่พอดี รวมทั้งคุณแม่ที่จำเป็นต้องส่งลูกไปอยู่เนิร์สเซอรี่เพราะเห็นว่าเป็นหนทางที่ดีกว่าในการที่จะมีคนช่วยดูแลลูกที่ไว้ใจได้ในระหว่างที่คุณต้องดูแลลูกแรกคลอด 
ต้องระวังความเข้าใจผิดของเจ้าตัวเล็ก เพราะเค้าอาจเกิดอาการต่อต้านการไปเนิร์สเซอรี่ เนื่องจากคิดว่าการมีน้องทำให้แม่รักเค้าน้อยลงจนเค้าต้องไปอยู่เนิร์สเซอรี่ 
ดังนั้น อย่าลืมดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ให้เวลากับเค้ามากๆ คอยพูดคุยถึงกิจกรรมสนุกๆ ที่เค้าได้ทำระหว่างไปเนิร์สเซอรี่   
ระหว่างอยู่ที่บ้านก็ควรสอนให้ลูกรู้จักรับผิดชอบตนเองเพิ่มขึ้น รู้จักการให้และการช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอกว่า ด้วยการเปิดโอกาสให้เขามีส่วนร่วมในการดูแลน้อง คอยหยิบของใช้ให้ ให้เขาเป็นคนเลือกเสื้อผ้า เลือกของเล่นให้น้อง 
การทำเช่นนี้ลูกจะภาคภูมิใจที่ตนเองมีบทบาทในครอบครัวเพิ่มขึ้น และเมื่อเค้ารู้สึกว่าตนเองเป็นคนสำคัญ แน่นอนว่าเค้าจะพยายามเป็นเด็กดี เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้น้องได้เห็น แล้วความรู้สึกด้านลบเกี่ยวกับการไปเนิร์สเซอรี่เพราะมีน้องก็จะหายไปค่ะ 

เด็กอยู่เนิร์สเซอรี่ป่วยบ่อยจริงหรือ 
อีกเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมรับมือมื่อลูกถึงวัยเข้าเนิร์สเซอรี่ คือ เรื่องสุขภาพค่ะ หลายคนสังเกตว่าเมื่อลูกไปเนิร์สเซอรี่ จะเจ็บป่วยง่าย เรื่องนี้มีผลการวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ลงวารสารกุมารแพทย์เเละอายุรแพทย์ของสหรัฐอเมริกา ระบุวาเด็กวัย 2 ขวบ ที่ถูกเลี้ยงตามสถานรับเลี้ยงเด็กกลางวันจะเป็นโรคหวัดบ่อยถึง 2 เท่าของเด็กที่เลี้ยงอยู่กับบ้าน นั่นทำให้คุณพ่อคุณแม่กังวลใจใช่มั้ยคะ 
แต่อย่าเพิ่งตกใจค่ะ เพราะคณะวิจัย นำโดยดร.โทมัส เอ็ม บอลล์ Associate professor ของภาควิชากุมารแพทย์ แห่งมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์แอริโซน่า สหรัฐอเมริกา ได้ทำการติดตามผลเด็กกลุ่มนี้ต่อไปแล้วพบว่า แม้ว่าเค้าจะเป็นหวัดบ่อยในช่วงที่อยู่เนิร์สเซอรี่ แต่พอเค้าอายุได้ 6 - 11 ปี จะเป็นหวัดน้อยกว่าเด็กที่คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงเองที่บ้านถึง 1 ใน 3 ทีเดียว 
สำหรับหนูๆ ที่ไปเนิร์สเซอรี่เป็นครั้งแรกในช่วงนี้ คุณพ่อคุณแม่ต้องให้เวลาลูกในการปรับตัวซักหน่อย โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์แรก อาจมีการโยเย งอแง ไปจนถึงอาละวาดได้ แต่เมื่อผ่านช่วงของการปรับตัวไปแล้ว เชื่อว่าทุกอย่างจะราบรื่นขึ้นค่ะ